วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรียนครั้งที่11


บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อ. ตฤณ แจ่มถิน
วัน/เดือน/ปี  23 สิงหาคม 2556
เรียนครั้งที่11 เวลาเรียน 13:10-16:40
เวลาเข้าเรียน 13:00 เวลาเลิกเรียน 15:00


                                     เรื่อง สื่อการเรียนรู้ทางภาษา
          
           1. วัสดุ อุปกรณ์ หรือ วิธีการต่างๆ
           2. เพื่อกระตุ้น ส่งเสริม จูงใจ ให้เด็กเกิดความสนใจ
           3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การเรียนรู้ทางภาษา
           4. เครื่องมือที่ครูกำหนดขึ้น เพื่อถ่ายทอดแลกเปลี่ยนเนื้อหา นั้นเอง


                                   ความสำคัญของสื่อการเรียนรู้ทางภาษา
        
        - เด็กเรียนรู้ได้ดีจากประสาทสัมผัส
        - เข้าใจได้ง่าย
        - เป็นรูปธรรม
        - จำได้ง่ายๆ เร็ว และ นาน

              
                                ประเภทของสื่อ
     
     1. สื่อสิ่งพิมพ์
         - สื่อที่ใช้ระบบการพิมพ์
         - เด็กได้เรียนรู้ตัวอักษร การใช้คำ ประโยค
         - หนังสือนิทาน หนังสือพิมพ์ แผ่นพับ นิตยสาร แบบฝึกหัด พจนานุกรม
     2. สื่อวัสดุอุปกรณ์
         - สิ่งของต่างๆ
         - ของจริง หุ่นจำลอง แผนที่ แผนภูมิ ตาราง สถิติ กราฟ สมุดภาพ หุ่นมือ
    3. สื่อโสตทัศนูปกรณ์
        - สื่อที่นำเสนอด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ
        - คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นแผ่น
    4. สื่อกิจกรรม
       - วิธีการที่ใช้ในการฝึกปฏิบัติ ทักษะ
       - ใช้กระบวนการคิด การปฏิบัติ การเผชิญสถานการณ์
       - เกม เพลง การสาธิต สถานการณ์จำลอง การแสดงละคร การจัดนิทรรศการ การแสดงผลงาน ทัศนศึกษา
   5. สื่อบริบท
      - สื่อที่ส่งเสริมการจัดประสบการณ์
      - สภาพแวดล้อม
      - ห้องเรียน บุคคล ชุมชน วัฒนธรรม

       หลังจากที่สอนเสร็จ อาจารย์ก็ให้ทำกิจกรรม โดยแจกกระดาษและสีให้นักศึกษา ให้วาดรูปอะไรก็ได้พร้อมระบายสีให้สวยงาม ตามด้วยเขียนใต้ภาพเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ


วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556



เรียนครั้งที่ 10

บันทึกอนุทิน


วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วันศุกร์ ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ครั้งที่ 10 เวลาเรียน 13.10-16.40 น.




เวลาเข้าสอน 13.00 น. เวลาเข้าเรียน 12.50 น. เวลาเลิกเรียน 16.40 น.


การเรียนในวันนี้ คุณครูให้นักศึกษา ทำสื่อสำหรับเด็กเกี่ยวกับ 10 ประเทศอาเซี่ยน โดยแบ่งนักศึกษาเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มของดิฉัน ทำสื่อเป็นธง ชักขึ้นชักลงกลุ่มของดิฉัน ทำสื่อเป็นธง ชักขึ้นชักลง

                                  


ความรู้ที่ได้รับ
1.รู้จักการแบ่งงาน และทำงานตามหน้าที่ของตนเองตามที่ได้รับมอบหมายจนบรรลุเป้าหมาย
2.ได้มีความคิดสร้างสรรค์ในนการสร้างงาน
3.รู้จักขั้นตอนและวิธีการทำหุ่นนิ้วมือ
4.ได้มีปฎิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน
5.ได้ช่วยเหลือเพื่อนในการทำงานภายในกลุ่ม
6.ได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น ได้รู้จักคำว่าสามัคคี

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรียนครั้งที่ 9  
บันทึกอนุทิน
 วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
 วันศุกร์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556 
เวลาเรียน 13.10-16.40 น. เวลาเข้าสอน 13.00 น.


 กิจกรรมในวันนี้ 

อาจารย์ให้นักศึกษาทั้งห้องร่วมกันทำBigbookซึ่งเพื่อนทั้งห้องได้ร่วมแสดง คิดเห็นและช่วยกันแต่งนิทานเรื่องหนึ่ง และนำมาทำเป็นหนังสือนิทานขนาดใหญ่ เพื่อจะได้นำไปจัดกิจกรรมให้แก่เด็กได้และนิทานที่เพื่อนช่วยกันแต่ ก็ได้ให้ประโยชน์กับดิฉันหลายอย่าง วันนี้เพื่อนๆช่วยกันแต่งนิทานเรื่องหนึ่งซึ่งมีกระต่ายเป็นตัวเอก

 เนื้อเรื่องที่ช่วยกันแต่ง คือ บทเรียนของ กระต่ายน้อย

มีครอบครัวกระต่ายอยู่ครอบครัวหนึ่ง สร้างบ้านอยู่ในทุ่งหญ้าสีเขียว ครอบครัวกระต่ายประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูกกระต่าย สองตัว และลูกกระต่ายชอบแย่งแครอทกัน น้องชอบแย่งแครอทพี่และฝ่ายพี่ก็ยอมเสียสละให้น้องเสมอ เพราะเชื่อฟังที่พ่อแม่สอน แต่กระต่ายตัวน้องก็เอาแต่ใจเกินไป ต้องให้พี่ยอมน้องทุกเรื่อง แต่แล้ววันหนึ่งมีกระรอกตัวหนึ่งมาแย่งแครอทของน้องกระต่ายไป น้องเลยได้แต่นั่งร้องไห้ พอพี่กระต่ายเห็นเลยนำแครอทของตนมาให้กับน้องกระต่าย น้องกระต่ายจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมพี่ถึงเอาแครอทมาให้ และพี่ก็บอกว่า "เราเป็นพี่น้องกันก็ต้องแบ่งปันกัน" น้องกระต่ายได้ฟังคำที่พี่กระต่ายพูด เลยได้ตัดสิ้นใจหักแครอทแบ่งกับพี่คนละครึ่ง หลังจากนั้นน้องกระต่ายก็ไม่เอาแต่ใจอีกเลย
                               

การนำไปใช้
-สามารถนำความรู้ที่ได้นี้ ไปใช้กับเด็กได้ โดยการขอความร่วมมือกับเด็ก ให้เด็กได้แสดงความสามารถของคน
 -ได้ฝึกทักษะ การทำงานเป็นทีม และสามารถนำไปพัฒนากับเด็กได้
-ได้มีทักษะการสังเกตการทำงานเป็นกลุ่ม และสามารถนำไปสังเกตเด็กได้
 -ได้ฝึกทักษะการพูด และความกล้าแสดงออก

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรียนครั้งที่ 8


  บันทึกอนุทิน

   วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย

    อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ  แจ่มถิน


      วัน ศุกร์ ที่ 2 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2556


วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากเป็นช่วงของเวลาการสอบกลางภาคของ

ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม


เรียนครั้งที่
                                                                                              บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย

อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ  แจ่มถิน
วันศุกร์ ที่ 24 กรกฎาคม .2556
ครั้งที่ 7 เวลาเรียน 13.10-16.40 .
เวลาเข้าสอน 13.10 . เวลาเข้าเรียน 13.06 . เวลาเลิกเรียน 14.40 .

ความรู้ที่ได้รับจากวันนี้
วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาวาดรูปตามความสนใจของตนเอง
เมื่อวาดภาพเสร็จก็ให้นักศึกษานำภาพของตนเองมาหน้าห้องแล้วเล่าเป็นนิทาน
เมื่อเพื่อนคนที่ 1 เล่าเสร็จ ให้เพื่อนคนต่อไปนำภาพของตนเองมาประกอบต่อ
แล้วเล่านิทานต่อจากเพื่อนคนแรก โดยให้เนื้อเรื่องของเพื่อนทุกคนครบถ้วน
และมีเนื้อหาที่คล้องจองกันทุกคน จนจบคนสุดท้าย
การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
-การเล่านิทานเป็นการส่งเสริมพัฒนาการ
-การสังเกตการเล่านิทานของเพื่อนเป็นการฝึกทักษะ
-การสื่อสารของเพื่อนสามารถนำมาประกอบเป็นนิทานได้

การประเมิน
1.ใช้เครื่องมือในการประเมินที่หลากหลาย
2. เน้นที่ความก้วหน้าของเด็ก
    -บันทึกสิ่งที่เด็กทำ
    -ทำให้สามารถส่งเสริมเด็กให้ก้าวไปสู่พัฒนาการทางภาษาในระดับที่สูงขึ้นได้
3.ประเมินจากบริบทที่หลากหลาย
4.ให้เด็กได้มีโอกาศประเมินตนเอง
5.ครูให้ความสนใจทั้งกระบวนการและผลงาน
6.ประเมินเด็กเป็นรายบุคคล
ตัวอย่างกิจกรรมส่งเสริมทักษะทางภาษา
-การเขียนตามคำบอกของเด็ก
-ช่วยเด็กเขียนบันทึก
-อ่านนิทานร่วมกัน
-เขียนประกาศเพื่อแจ้งข่าว  เตือนความจำ
-อ่านคำค้องจอง
-ร้องเพลง
-เล่าสู่กันฟัง
-เขียนส่งสารถึงกัน
การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
- ควรประเมินผลงานของเด็กทุกขั้นตอนการทำงาน
- การประเมินเด็กควรถามเด็กว่า ผลงานที่ออกมานั้นคืออะไร ก่อนที่ครูจะประเมินเด็ก
-ในการประเมินเด็กครูควรบันทึกพฤติกรรมของเด็กด้วย
- ควรให้ความสำคัญต่อการประเมินผลงานเด็กด้วย


วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรียนครั้งที่ 6
                                                              บันทึกอนุทิน

วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย

อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ  แจ่มถิน
วันศุกร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ครั้งที่ 6 เวลาเรียน 13.10-16.40 น.
เวลาเข้าสอน 13.10 น. เวลาเข้าเรียน 13.06 น. เวลาเลิกเรียน 14.40 น.


ความรู้ที่ได้รับจากวันนี้
แนวทางการจักประสบการณ์ทางภาษา
ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
1. การจัดประสบการณ์ทางภาษาที่เน้นทักษะทางภาษา
 Skill Approch
- ให้เด็กรู้จักส่วนย่อยๆของภาษา
- การประสมคำ
- ความหมายของคำ
- นำมาประกอบเป็นประโยค
- การแจกรูปสะกดคำ การเขียน
- ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ
- ไม่สอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
Keneth Goodman
- เสนอแนวทางการสอนแบบธรรมชาติ
- มีความเชื่อมโยงระหว่างภาษากับความคิด
- แนวทางการสอนมีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้และธรรมชาติของเด็ก
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย
- สนใจ อยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบๆตัว
- ช่างสงสัย ช่างซักถาม
- มีคามคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
- ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- เลียนแบบคนรอบข้าง
2. การสอนภาษแบบธรรมชาติ
Whole Language
ทฤษฎีมีอิทธิพลต่อการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
 Dewey / Piaget / Vygotsky / Haliday
- เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์และการลงมือกระทำ
- การเรียนรู้จากกิจกรรม การเคลื่อนไหวของตนเอง และการได้สัมผัสจับ้องกับสิ่งต่างๆ แล้วสร้างความรู้ขึ้นมาด้วยตนเอง
- อิทธิพลองสังคมและบุคคลอื่นๆ ที่มีผลต่อการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
การสอนภาษาแบบธรรมชาติ
- สอนบูรณาการ / องค์รวม
- สอนในสิ่งที่เด็กสนใจ และมีความหมายสำหรับเด็ก
- สอนสิ่งที่ใกล้ตัวเองและอยู่ในชีวิตประจำวัน
- สอนแทรกการฝึกทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ไปพร้อมกับการทำกิจกรรม
- ไม่เข้มงวดกับการท่อง สะกด
-ไม่บังคบให้เด็กเขียน
หลักของการสอนภาษาแบบธรรมชาติ
นฤมน เนียมหอม (2540)
1. การจัดสภาพแวดล้อม
- ตัวหนังสือที่ปรากฎในห้องเรียนต้องมีเป้าหมายในการใช้จริงๆ
- หนังสือที่ใช้จะต้องเป็นหนังสือที่ใช้ภาษาที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัว
- เด็กมีส่วนในการจัดสภาพแวดล้อม
2. การสื่อสารที่มีความหมาย
- เด็กสื่อสารโดยมีพื้นฐานจากประสบการณ์จริง
- เด็กอ่านและเขียนอย่างมีจุดมุ่งหมาย
- เด็กได้ใช้เวลาในการอ่านและเขียนตามโอกาส
3. การเป็นแบบอย่าง
- ครูอ่านและเขียนอย่างมีจุดมุ่งหมายในการใช้ให้เด็กเห็น
- ครูเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็นว่าการอ่านเป็นเรื่องสนุก
4. การตั้งความคาดหวัง
- ครูเชื่อว่าเด็กมีความสามารถในการอ่านและเขียน
- เด็กสามารถอ่าน เขียน ได้ดีและถูกต้องยิ่งขึ้น
5. การคาดคะเน
- เด็กมีโอกาสในการทดลองภาษา
- เด็กได้คาดเดา หรือคาดคะเนเรื่องที่อ่าน
- ไม่คาดหวังให้เด็กอ่านและเขียนได้เหมอนผู้ใหญ่
6. การใช้ข้อมูลย้อนกลับ
- ตอบนองความพยายามในการใช้ภาษาของเด็ก
- ยอมรับการอ่านและการเขียนของเด็ก
- ตอบสนองเด็กให้เหมาะสมกับสถานการณ์
7. การยอมรับนับถือ
- เด็กมีความแตกต่างระหว่างบุคคล
- เด็กได้เลือกกิจกรรมที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
- ในช่วงเวลาเดียวกันไม่จำเป็นต้องกระทำสิ่งเดียวกัน
- ไม่ทำกิจกรรมตามจังหวะขั้นตอน
8. การสร้างความรู้สึกเชื่อมั่น
- ให้เด็กรู้สึกปลอดภัยเมื่อใช้ภาษา
- ครูจะต้องทำให้เด็กไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือ
- ไม่ตราหน้าเด็กว่าไม่มีความสารถ
- มีความเชื่อมั่นว่าตนมีความสามารถ
บทบาทครู (นิรมล ช่างวัฒนชัย 2541)
- ครูคาดหวังเด็กแต่คนแตกต่างกัน
- ใช้ประสบการณ์ตรงในการสนับสนุนการอ่านการเขียน
- ครูควรยอมรับกับความไม่ถูกครบถ้วนของเด็ก
- ครูสร้างความสนใจ ในคำและสิ่งพิมพ์
การนำไปใช้
- การที่เด็กจะสื่อสารนั้นต้องมีพื้นฐานจากประสบการณ์จริง
- ควรเชื่อมั่นว่าเด็กสามารถอ่าน เขียนได้
- เด็กแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ในการแสดงพฤติกรรมทางการใช้ภาษา
- เด็กจะมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการแตกต่างกัน
-ไม่ควรบังคับเด็ก


วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 5
วิชา การจัดประสบการณ์ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ  แจ่มถิน

วัน/เดือน/ปี  12  กรกฎาคม  2556
ครั้งที่ 5  เวลาเรียน 13.10-16.40 น.
เวลาเข้าสอน 13.00น.  เวลาเข้าเรียน 13.10น.  เวลาเลิกเรียน 16.40น.

: องค์ประกอบของการศึกษา
               1. เสียง (Phonology)
                    -ระบบเสียงของภาษา
                    -เสียงที่มนุษย์เปล่งออกมาเพื่อสื่อความหมาย
                    -หน่วยเสียงจะประกอบขึ้นเป็นคำในภาษา
                2. ความหมายของภาษาและคำศัพท์ (Syntax)
                    -คือ ความหมายของภาษาและคำศัพท์
                    -คำศัพท์บางคำสามารถมีได้หลายความหมาย
                    -ความหมายเหมือนกันแต่ใช้คำศัพท์ต่างกัน
                3. ไวยากรณ์ (Syntax)
                   - คือ ระบบไวยากรณ์
                   - การเสียงรูปประโยค
                4. Pragmatic
                   - คือระบบการนำไปใช้
                   -ใช้ภาษาให้ถูกต้องตามสถานการณ์และกาลเทศะ
:แนวคิดนักการศึกษา
   Skinner
           -สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อพัฒนาการภาษา
           -ให้ความสำคัญกับสิ่งเร้าและการตอบสนอง
   John B. watson
           -ทฤษฏีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
           -การวางเงื่อนไขพฤติกรรมของเด็ก  เป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้และผู้ใหญ่สามารถที่จะวางเงื่อนไขให้เด็กเกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์ได้ทุกพฤติกรรม

นักพฤติกรรมนิยมเชื่อว่า
         - ภาษาเป็นกระบวนการภายในของมนุษย์
         - การเรียนภาษาเป็นผลมาจากการปรับพฤติกรรมโดยสิ่งแวดล้อม
         - เด็กเกิดมาโดยมีศักยภาพในการเรียนรู้ภาษา
         - เด็กจะสังเกตและเลียนแบบพฤติกรรม เมื่อปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบตัว
         - เมื่อได้รับแรงเสริมจะทำให้เด็กเลียนแบบตัวแบบมากขึ้น
นักคิดกลุ่มพัฒนาการทางสติปัญญา
   Piaget
         - เด็กเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
         - ภาษาเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นระดับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก
    Vygotsky
         - เด็กเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
         - สังคม บุคคลรอบข้างมีผลต่อการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
         - เน้นบทบาทของผู้ใหญ่
         - ผู้ใหญ่ช่วยชี้แนะและขยายประสบการณ์ด้านภาษาของเด็ก
แนวคิดของกลุ่มที่เชื่อเรื่องความพร้อมทางร่างกาย
   Arnold Gesell
         - เน้นความพร้อมทางด้านร่างกายในการใช้ภาษา
         - ความพร้อม วุฒิภาวะของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน
         - เด็กบางคนอาจมีความพร้อมทางร่างกายในการใช้ภาษาได้เร็ว
         - เด็กบางคนอาจมีปัญหาอวัยวะบางส่วนที่ใช้ภาษาในการสื่อสารบกพร่อง
แนวคิดของกลุ่มที่เชื่อว่าภาษาติดตัวมาแต่กำเนิด
    Noam Chomsky
           - ภาษาเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในตัวมนุษย์
           - การเรียนรู้ภาษาขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะ
           - มนุษย์เกิดมาโดยมีศักยภาพในการเรียนรู้ภาษา มาตั้งแต่เกิด เรียกว่า LAD (Language Acquisition Derice)
แนวคิดของ O. Hobart Mowrer
           - คิดค้นทฤษฏีความพึงพอใจ

แนวทางในการจัดประสบการณ์ทางภาษา
            - เป็นสิ่งที่สะท้อนปรัชญาและความเชื่อของครูเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษาของเด็ก
            - นำไปสู่การกำหนดกระบวนการที่ใช้อย่างแตกต่างกัน
Richard and Rodger (1995 ) ได้แบ่งมุมมองต่อภาษาในการจัดประสบการณ์ เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
    1. มุมมองด้านโครงสร้างของภาษา
            - นำองค์ประกอบย่อยของภาษามาใช้ในการสื่อความหมาย
            - เสียง ไวยากรณ์ การประกอบคำเป็นวลี หรือประโยค
    2. มุมมองด้านหน้าที่ของภาษา
            - เชื่อว่าภาษาเป็นเครื่องมือสำหรับสื่อความหมาย
            - การจัดประสบการณ์เน้นการสื่อความหมาย
            - ไม่ได้ละทิ้งแบบแผนหรือไวยากรณ์
    3. มุมมองด้านปฏิสัมพันธ์
            - เชื่อว่าภาษาเป็นเครื่องมือในการสร้างสัมพันธ์ทางสังคม
            - การแลกเปลี่ยนประสบการณ์
           - เด็กมีปฏิสัมพันธ์ผ่านการใช้ภาษา